วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2551

อภิสิทธิ์ เสนอ สมัคร ยุบสภาทางแก้วิกฤติ



อภิสิทธิ์ เสนอ สมัคร ยุบสภาทางแก้วิกฤติ

โดย คม ชัด ลึก
วัน อาทิตย์ ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2551 00:00 น."อภิสิทธิ์” เสนอ “ยุบสภา” เพื่อให้บ้านเมืองสงบ รับขัดใจลูกพรรค เลือกตั้งใหม่เสียเปรียบรัฐบาล แต่สภาต้องรับผิดชอบวิกฤตการณ์ "สมัคร"ยันไม่ออกยันรักษาระบบไว้


เมื่อเวลา 21.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันนี้เราทุกฝ่ายต้องยอมเจ็บเพื่อรักษาส่วนรวม พวกเราต้องรักษาประชาธิปไตย ไม่ว่าใครหรือฝ่ายใดก็ตามที่จะทำให้เหตุการณ์รุนแรงมากขึ้นและอาจจะนำไปสู่รัฐประหาร หรือเปลี่ยนนอกรัฐธรรมนูญนั้นตนไม่เห็นด้วย ถ้าเกิดขึ้นตนก็จะยืนคัดค้าน อาจจะไม่ได้ร่วมเวทีกับฝ่ายรัฐบาลแต่ก็จะยืนคัดค้าน แต่เราต้องเข้าใจว่าจะไม่ให้เกิดความรุนแรงได้ ปฎิวัติได้ทุกฝ่ายมีหน้าที่ต้องช่วยและเสียสละ

ทั้งนี้ ทางออกของบ้านเมืองนอกจากไม่รุนแรง ไม่รัฐประหารแล้วต้องไม่ออกนอกกรอบรธน. ระบบการเลือกตั้งแบบ 70-30 นั้นทำไม่ได้ ถ้าทำต้องแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งอำนาจแก้อยู่ที่สภา ถ้าอยากแก้ต้องมาถกกันที่สภา หรือใครจะมาเสนอว่ายกเว้นรัฐธรรมนูญสัก 1 มาตรา หรือ 1 วรรคก็ไม่ได้ เราอยากแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้วเสียหลักระยะยาวหรือไม่ เสนอนายกฯคนกลาง ไม่ได้ นอกจากสภาจะเห็นด้วย แต่ต้องคิดว่าต่อสู้มานานแล้วในเรื่องนี้แล้วจะลบง่ายๆหรือ เราไม่จำเป็นต้องฟาดฟันกันจนส่วนรวมเสียหาย สิ่งที่เราต้องทำคือความขัดแย้งลุกลามถึงประชาชนจริงๆ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในทุกๆประเทศที่เป็นประชาธิปไตยนั้น พรรคที่มี เสียงข้างมากไม่ได้หมายความว่าทำได้ทุกสิ่ง เมื่อมีประชาชนเพียง1คนหรือแสนคนมาเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาตัวเองนั้นไม่ได้ขัดหลักการประชาธิปไตย โดยเฉพาะถ้ามีข้อสงสัยว่าการบริหารประเทศนั้นละเมิดกฎหมาย ละเมิดสิทธิประชาชน หรือ ทุจริตคอร์รัปชั่น เรื่องเหล่านี้ในประเทศที่พัฒนาแล้วจะไม่รอให้กฎหมายจัดการ แต่จะมีสำนึกความรับผิดชอบทางการเมือง ในประเทศเกาหลีแค่คิดนโยบายเปิดการค้าเสรี เอาเนื้อวัวต่างประเทศ เข้ามาคนลุกฮือมาเป็นแสนก็ตัดสินใจลาออกทั้งคณะ ต้องยอมรับว่าการชุมนุมของพันธมิตรฯเป็นการที่ประชานสะสมความไม่พอใจมานานถึงจะจัดการขั้นเด็ดก็ไม่อาจทำลายแนวคิดต่อต้านที่มีได้

" ถ้าผมเรียกร้องให้ลาออก ท่านก็จะถามว่ารัฐธรรมนูญมาตราไหนที่บังคับว่าต้องให้ออก แต่วันนี้เกินเลยจุดนั้นไปแล้ว สิ่งที่ท่านเรียกว่า “กบฎ” แต่อีกฝ่ายเรียก “อารยขัดขืน” มีสาเหตุจากเงื่อนไขเพิ่มเติมจากเหตุการณ์ 1-2 วันนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสังคมมีสิทธิจะคิดว่านายกฯต้องรับผิดชอบ ท่านนายกฯต้องเป็นกลางและรับฟังความเจ็บปวดของคนทุกฝ่าย เหตุการณ์อุดรฯฝ่ายถูกทำร้ายอยู่ฝ่ายตรงข้ามาท่านไม่แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์นี้ ไม่ตอบกระทู้ในสภา แล้วจะให้คนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในแผ่นดินนี้เชื่อมั่นได้อย่างไร "

นายอภิสิทธิ์ กล่าวนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลอย่าหวาดระแวงว่าถ้านายกฯออก แล้วพวกตนจะช่วงชิงยึดกุมอำนาจรัฐ อย่าระแวงเลย ตนไม่ทำ ตนยืนยันว่าบ้านเมืองนี้ต้องหาทางออกตามรัฐธรรมนูญ โดยปราศจากการละเมิดสิทธิ ใครผิดกฎหมายก็ต้องถูกจัดการ ตนไม่เชื่อว่าถ้านายกฯอยู่ตำแหน่งต่อไปใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะแก้ปัญหาได้ ถ้านายกฯกลัวว่าการลาออกจะสร้างวัฒนธรรมการเมืองไม่ดี ท่านบอกหยิบมือเดียว แต่หลายประเทศที่มีวัฒนธรรมเช่นนี้ก็ไม่เห็นเสียหาย

“วันนี้ผมต้องพูดขัดใจลูกพรรค และสมาชิกหลายคน ที่มักไม่เสนอให้ยุบสภา แต่การยุบสภาจะเป็นการแสดงความรับผิดชอบส่วนหนึ่ง ถ้านายกฯไม่อยากรับผิดชอบคนเดียว เราทั้งสภาจะเจ็บร่วมกัน พวกผมมีแต่เสียเปรียบทุกเรื่อง แต่วันนี้ผมยอม และผมจะเรียกร้องกับพันธมิตรฯว่าต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชนเช่นเดียวกัน อาจจะตั้งพรรคการเมืองมาแข่ง หรือสอดส่องดูแลการเลือกให้บริสุทธิ์ยุติธรรมก็ได้ ขอเพียงแต่รัฐบาลรักษาการทำตามรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด อย่าใช้อำนาจเกินเลยกว่าที่รัฐธรรมนูญ กำหนด เราเสียสละตัวเองก่อนได้หรือไม่ วันนี้เราถูกปรามาสว่ากระบวนการในสภานี้เป็นแค่พิธีกรรม อยากให้นายกฯกลับไปตรองท่านเสียสละ ผมเจ็บกว่าท่าน แต่พร้อมจะทำเพื่อบ้านเมืองสงบ”หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

ต่อจากนั้นนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า การที่จะทำตามข้อเสนอของนายอภิสิทธิ์นั้นง่ายนิดเดียวเพราะไม่ได้ลงทุนอะไร เพียงรับปากเข้ามาทำหน้าที่หัวหน้าพรรคเท่านั้น แต่ที่ตนไม่ทำเพราะต้องการจะรักษาระบบไว้ ไม่ใช่ว่ามีคนออกมาประท้วงแล้วจะต้องทำตามแล้วสถานบันการเมืองจะเป็นอย่างไร

วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2551

มีการยิงแก๊สน้ำตาใส่พันธมิตรฯหน้าบช.น.


มีการยิงแก๊สน้ำตาใส่พันธมิตรฯหน้าบช.น.


โดย กรุงเทพธุรกิจ


วัน ศุกร์ ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2551 00:00 น.พันธมิตรม็อบปิดล้อม บช.น. จากนั้น มีการยิงแก๊สน้ำตาใส่พันธมิตรฯ หน้า บช.น. กลุ่มพันธมิตรฯ เคลื่อนเท้าจากทำเนียบฯกว่าหนึ่งพันคน มาปิดล้อมด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมรถเครื่องขยายเสียงเรียกร้อง ผบ.ตร.-ผบช.น.จับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สั่งการสลายม็อบและจับกุมตำรวจที่ทำร้ายประชาชนได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้มาลงโทษให้ได้ โดยผู้ชุมนุมได้โห่ร้องตะโกนด่าทอตำรวจถ้ำการรักษาความปลอดภัยของตำรวจกว่า 200นาย ขณะที่ห้องประชุมชั้นบนอาคารบช.น. ผบ.ตร. และผบช.น. รวมทั้งนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่กว่าลงประชุมหารือกำหนดท่าทีอย่างเคร่งเครียด บช.น. โดนปิดตายเข้าออกไม่ได้ เมื่อเวลา18.45 น.กลุ่มพันธมิตรกว่าหนึ่งพันนายรวมตัวกันเพื่อกดดันให้ พล.ต.ต.สุชาติ เหมือนแก้ว รอง ผบช.น.ออกมารับผิดชอบกับการกระทำอันโหดร้ายทารุณกับประชาชน พร้อมทั้งเรียกร้องให้นำเงินบริจาคนับแสนและโทรศัพท์มือถือที่หายไปมาคืน แกนนำกลุ่มพันธมิตรได้ปลุกระดมเป็นระยะๆจากนั้นได้ส่งให้ผู้ชายที่เป็นการ์ดตั้งแถวตอนและนับถอยหลัง พร้อมๆกันโดยเริ่มจาก 5-4-3-2-1 พร้อมกลุ่มผู้ชุมนุมได้ลุกขึ้นเฮพร้อมเขย่าประตูเพื่อพังประตูเข้าไปหลังจากนั้นประมาณ 10 -15 นาที ปรากฏ ได้ยิงแก๊สน้ำตาเข้าที่กลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 10 กว่านัด ท่ามกลางความตื่นตระหนกของผู้สื่อข่าวและกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นอย่างมาก แต่หลังจากหยุดยิงแก๊ส กลุ่มผู้ชุมนุมก็ไม่ได้หยุดนิ่งก็คงยังเฮโลกันเข้าไปอีก พร้อมทั้งมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บถูกหามส่งขึ้นรถพยาบาลจำนวนมาก ช่วงที่ชุลมุนวุ่นวายก็มีกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนนึงร้องโวยวายการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สร้างความไม่พอใจเป็นอย่างมากจึงใช้ไม้ขนาดใหญ่ทุบตี รถยนต์ตำรวจ และรถผู้สื่อข่าวช่อง3 รถผู้สื่อข่าวช่อง7 ที่จอดอยู่บริเวณรอบนอกของนครบาล แต่ทางกลุ่มพันธมิตรอีกจำนวนนึงกล่าวว่า กลุ่มที่โวยวายและทุบตี พังรถยนต์นั้นไม่ใช่กลุ่มของพวกตน ซึ่งเชื่อว่าเป็นมือที่สามน่าจะเป็นพวก นปก.แฝงตัวเข้ามาเพื่อสร้างสถานการณ์ให้สังคมมองว่ากลุ่มพันธมิตรเป็นฝ่ายผิด กลุ่มผู้ชุมนุมก็ยังคงยืนเกาะกลุ่มอยู่ด้านหน้า บช.น.ยังไม่ยอมถอย ยังคงยืนยันความต้องการให้ พล.ต.ต.สุชาติ ออกมารับผิดชอบผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะนี้ บช.น.ถูกปิดตาย ไม่สามารถเข้าออกได้ มีการยิงแก๊สน้ำตาใส่พันธมิตรฯหน้าบช.น. เมื่อเวลา 19.00 น. พันธมิตรฯได้ชุมนุมบริเวณหน้าบชน.ก่อนมีการยิงงแก๊สน้ำตาเกือบ 10 นัด ทำให้ผู้ชุมนุมเกิดการแตกตื่นและได้ทยอยไปร่วมขณะนี้ประชาชนได้ตรึงพื้นที่จำนวนมากจนล้นด้านหน้าบชน.บนถนนกรุงศรีอนุธยา ถึงลานพระบรมรูปทรงม้า ทั้งนี้ประชาชนต่างทยอยเขาร่วมชุมนุมบริเวณหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาลอย่างต่อเนื่องพร้อมโห่ร้องอย่างโมโห ขณะที่แยกมิสกวันถึงเวทีสะพานมัฆวานฯที่มีการจัดตั้งขึ้นมาใหม่และเปิดปราศรัยให้ประชาชนที่เข้าร่วมได้รับฟัง แต่ยังไม่มีการฉายจอโปรเจคเตอร์เนื่องจากเสียหายจากที่เมื่อเช้าตำรวจได้เข้าไปสลายการชุมนุม อย่างไรก็ตามคนที่มาชุมนุมส่วนมากมาจากต่างจังหวัด เมื่อเวลา 19.12 น. ภายหลังผู้ชุมนุมได้รับทราบข่าวว่า บริเวณหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล มีการยิงแก๊สน้ำตา ใส่ผู้ชุมนุมนับ 1,000 คน ได้พากันตั้งแถวและเคลื่อนตัวออกจากทำเนียบรัฐบาล เพื่อไปสมทบ กับผู้ชุมนุมบริเวณหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย แต่ละคนต่างสวมหมวกกันน็อคและพกขวดน้ำ เพื่อใช้ปฐมพยาบาลหากถูกแก๊สน้ำตา บางคนที่ไม่มีอาวุธ ก็พกขวดน้ำคนละ 2-3 ขวด เพื่อใช้ขว้างปา

วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ห่วงคนไทยเครียดแนะพักรับข่าวสาร [27 ส.ค. 51 - 04:37]


นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวเมื่อวันที่ 26 ส.ค.ว่า เชื่อว่าประชาชนจะเกิดความเครียด และความวิตกกังวลแน่นอน คนที่ส่งบุตรหลานไปเรียนหนังสือก็จะวิตกกังวลว่าบุตรหลานของตัวเองจะไปโรงเรียนได้หรือไม่ ซึ่งตนอยากวิงวอนในส่วนของผู้ที่เกี่ยวข้องในการชุมนุมครั้งนี้ว่าทำอะไรอยากให้คิดถึงคนส่วนใหญ่ของกรุงเทพฯด้วย ซึ่งมีคนกรุงเทพฯอีกหลายล้านคนที่ไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมครั้งนี้ แต่กลับต้องมาได้รับผลกระทบ กิจการงานทุกอย่างต้องมาหยุดชะงัก ซึ่งก็ไม่ทราบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมต้องการให้เกิดอะไรหรือไม่ แต่เชื่อว่าคงจะมีเหตุผล และตนเชื่อว่าหากไปถามประชาชนในกรุงเทพฯว่าสบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้หรือไม่ คนส่วนใหญ่จะรู้สึกอึดอัด และสงสัยว่าทำไมไม่พูดตกลงกันให้รู้เรื่อง อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้เครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากแนะนำให้ลองมองในมุมกลับ พลิกวิกฤติเป็นโอกาส มองเป็นการพัฒนาการของประชาธิปไตย และเรียนรู้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหมือนเป็นการสอนจากของจริง เพราะเหตุการณ์ในลักษณะนี้ล้วนเคยเกิดขึ้นมาแล้วในประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่ถ้าหากเกิดการเครียดจากการดูข่าวการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ก็ควรพักหยุดรับข่าวสารบ้าง


ปีที่ 59 ฉบับที่ 18481 วันพุธ ที่ 27 สิงหาคม 2551

วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2551

กลุ่มพันธมิตรฯบุกบช.น.ไล่ทีมงานเอ็นบีที -ผบ.สส.ชี้สถานการณ์ยังไม่แรง

กลุ่มพันธมิตรฯบุกบช.น.ไล่ทีมงานเอ็นบีที -ผบ.สส.ชี้สถานการณ์ยังไม่แรง
โดย มติชน
วัน อังคาร ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2551 10:25 น.


กลุ่มพันธมิตรฯบุกไล่ทีมรายงานสดเอ็นบีที ที่ย้ายสถานที่มาตั้งแต่ช่วงเช้า ผบ.สส.ชี้สถานการณ์ยังไม่แรง ปัดเรียกประชุมเหล่าทัพ สมัคร ออกจากบ้านพัก ใช้รถลวงไปทำเนียบ เรียกประชุมด่วนประเมินชุมนุมพันธมิตรฯ ร่วมกับผบ.เหล่าทัพ ข่าวระบุว่าได้โทรศัพท์เช็คกับอนุพงษ์ เป็นระยะๆ โกวิทร่วมประชุมบช.น. เล็งรวมหลักฐานรวบ5แกนนำ

เมื่อเวลา 10.00 น. กลุ่มพันธมิตรฯ ประมาณ 500 คน ได้เคลื่อนขบวนจากสะพานมัฆวานฯ มาปิดล้อมประตูทางเข้าด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจนคร (บช.น.) เพื่อขับไล่ ทีมงานสถานีโทรทัศน์ NBT ที่ย้ายมาตั้งจุดออกอากาศถ่ายทอดสดรายงานสถานการณ์การชุมนุมใน บช.น. พร้อมตะโกนขับ "ออกไป ๆ พวกทีวีรับใช้ทรราช"

ขณะที่ทีมงาน ของ NBT ได้เก็บข้าวของอุปกรณ์ และรถถ่ายทอดสด พร้อมด้วยทีมงานได้เข้าไปเก็บตัวอยู่ในรถขณะที่ สถานีโทรทัศน์ TBPS ที่ตั้งจุดถ่ายทอดสุดบริเวณเดียวกันยังปักหลักรายงานสดอย่างต่อเนื่องโดยไม่เกรงกลัวกลุ่มผู้ชุมนุมแต่อย่างใด

ทั้งนี้กลุ่มผู้ชุมนุมได้ปิดถนน 4 ช่องทาง ที่ผ่านหน้า บช.น. ทั้งหมดทำให้รถไม่สามารถวิ่งไปมาได้ ต้องอ้อมไปใช้เส้นทางอื่นแทน

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตุว่า ตลอดช่วงเช้าของวันนี้การจราจร ภายในบริเวณฝั่งพระนคร โดย เฉพาะถนนราชดำเนิน และเส้นทางที่เชื่อมต่อมายังทำเนียบฯ และ สถานที่ราชการสำคัญต่างๆ สภาพการจราจรเบาบาง เนื่องจากประชาชนหลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นๆแทน เพราะรู้ว่าจะมีการชุมนุมใหญ่

ส่วนความเคลื่อนไหวภายในห้องประชุม บช.น.ชั้นบน พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกฯและรมว.มหาดไทย เข้าร่วมหารือกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ประเมินสถานการณ์การเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีผู้ชุมนุมมาปิดล้อม บช.น.ก็ตาม ได้สั่งการให้จัดกำลังตำรวจ คอยดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด ห้ามมิให้ผู้ชุมนุมบุกเข้ามาไม่ว่าจะเป็นสถานที่ ใด ๆ ก็ตาม หากพบว่า มีการทำผิดกฎหมาย ให้ดำเนินการจับกุมโดยทันที