วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2551

สมัคร ยื่นใบลาออกจาก พปช.แล้ว! พร้อมแถลงข่าวบ่ายนี้



สมัคร ยื่นใบลาออกจาก พปช.แล้ว! พร้อมแถลงข่าวบ่ายนี้

โดย โพสต์ทูเดย์
วัน อังคาร ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2551 13:37 น.

สมัครส่งโทรสาร แจ้งนายทะเบียนขอลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชาชนแล้ว ส่งผลให้กรรมการบริหารพรรคหลุดยกชุด เตรียมจัดประชุมใหญ่ภายใน60วันหาหัวหน้าคนใหม่ทำหน้าที่แทน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากอาคารIFCTที่ทำการพรรคพลังประชาชน ว่า นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชาชน โดยมีนายทะเบียนได้นัดสื่อมวลชนแถลงข่าวในช่วงบ่ายของวันนี้

รายงานข่าวจากพรรคพลังประชาชน แจ้งว่า ได้ส่งโทรสารยื่นใบลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ให้นายสมาน เลิศวงศ์รัฐ กรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน ในฐานะนายทะเบียนพรรค เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เวลาต่อมา นายสมาน เลิศวงศ์รัตน์ นายทะเบียนพรรคพลังประชาชน เปิดเผยว่า นายสมัคร ได้ส่งโทรสารลงวันที่ 26 ก.ย.2551 แจ้งมายังพรรคเพื่อขอลาออก จากการดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชาชน โดยให้เหตุผลว่า ตนไม่ได้ลงตำแหน่ง หรือ ทำหน้าที่บริหารงานในคณะรัฐบาล จึงต้องการเปิดโอกาสให้พรรคให้คัดเลือกบุคคลอื่นที่มีความเหมาะสมเข้ามาทำหน้าที่แทน ซึ่งการลาออกของนายสมัคร ส่งผลให้คณะกรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบันพ้นจากหน้าที่

นายสมาน กล่าวต่อว่า พรรคจะต้องจัดการประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ภายใน 60 วัน โดยคาดว่าจะดำเนินการได้ภายหลังจากที่ได้คณะรัฐมนตรี ได้มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยระหว่างนี้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์นายกรัฐมนตรี ในฐานะ รองหัวหน้าพรรคคนที่ 1 จะทำหน้าที่รักษาการหัวหน้าพรรคไปก่อนจนกว่าจะได้หัวหน้าพรรคคนใหม่ ซึ่งการลาออกของนายสมัคร ไม่ได้เป็นเพราะถูกกดดันจากสมาชิกภายในพรรคยังคงเป็น ส.ส.ของพรรคพลังประชาชนเช่นเดิม

วันเสาร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2551

สมชาย กลับบ้านนครฯ ในพื้นที่ยังไม่มีกลุ่มต่อต้าน


สมชาย กลับบ้านนครฯ ในพื้นที่ยังไม่มีกลุ่มต่อต้าน

โดย ไทยรัฐ
วัน เสาร์ ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2551 10:04 น.
เจ้าตัวเผยไม่ได้เตรียมการอะไรเป็นพิเศษ ด้านผู้การฯตำรวจเมือง คอน เผยเหตุการณ์ในพื้นที่ยังปกติ แต่เตรียมกำลังไว้ดูแลนายก - รัฐมนตรีเต็มที่
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (27 ก.ย.) ว่า ขณะนี้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกเดินทางโดยเครื่องบินโดยสารไปเยี่ยมบ้านเกิดและปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราชแล้ว อย่างไรก็ตาม การเดินทางไป จ.นครศรีธรรมราชของนายสมชายในครั้งนี้ ไม่มีรัฐมนตรีและผู้ติดตามมากนัก

ด้านนายสมชาย กล่าวถึงกรณีอาจจะมีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ในพื้นที่ภาคใต้เตรียมต่อต้านการเดินทางไป จ.นครศรีธรรมราชครั้งนี้ ว่า ไม่ได้เตรียมการอะไรเป็นพิเศษ

ขณะที่พล.ต.ต.กระจ่าง สุวรรณรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร (ผบก.ภ.) จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ขณะนี้ เหตุการณ์ในพื้นที่ยังคงปกติ อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้เตรียมกำลังไว้ดูแลความสงบเรียบร้อยระหว่างนายสมชายปฏิบัติภารกิจในพื้นที่อย่างเต็มที่

วันพุธที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2551

ในหลวงโปรดเกล้าฯครม. สมชาย1

ในหลวงโปรดเกล้าฯครม. สมชาย
โดย กรุงเทพธุรกิจ
วัน พุธ ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2551 00:00 น.ในหลวงโปรดเกล้าฯคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ สมชาย ควบกลาโหม สุชาติ นั่งคลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี ดังนี้

นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี
นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี
นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
นายสุพล ฟองงาม รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.คลัง
นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง
ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมช.คลัง
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา
นายอุดมเดช รัตนเสถียร รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรและสหกรณ์
นายสมพัฒน์ แก้วพิจิตร รมช.เกษตรและสหกรณ์
นายธีระชัย แสนแก้ว รมช.เกษตรและสหกรณ์
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม
นายโสภณ ซารัมย์ รมช.คมนาคม
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมช.คมนาคม
นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นายมั่น พัธโนทัย รมว. เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน
นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์
นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ รมช.พาณิชย์
พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ รมช.พาณิชย์
พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย
นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมช.มหาดไทย
นายประสงค์ โฆษิตานนท์ รมช.มหาดไทย
นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รมว.ยุติธรรม
นางอุไรวรรณ เทียนทอง รมว.แรงงาน
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.วัฒนธรรม
นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
นายศรีเมือง เจริญศิริ รมว.ศึกษาธิการ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.สาธารณสุข
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รมช.สาธารณสุข
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.อุตสาหกรรม

วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2551

พันธมิตรฯ ปฏิเสธสูตร 50:50


พันธมิตรฯ ปฏิเสธสูตร 50:50 [23 ก.ย. 51 - 04:37]

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 ก.ย. ที่ห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และนายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ร่วมกันแถลงข่าว โดย พล.ต.จำลอง กล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรฯยืนยันจุดยืนต่อต้านการแก้ รัฐธรรมนูญ 2550 และเสนอการเมืองใหม่ ซึ่งรูปแบบการเมืองใหม่ มีความแตกต่างจากระบบเก่าอย่างชัดเจน โดยยังจะเป็นการเลือกตั้งแบบ 100% แต่แยกออกเป็นสองทาง คือ การเลือกตั้งผ่านเขตพื้นที่ และเลือกตั้งผ่านกลุ่มสาขาอาชีพ ตามสัดส่วนประชากร ยืนยันว่าไม่ได้เป็นแบบ 50:50 ตามที่สื่อเสนอ และไม่ใช่การสรรหาหรือแต่งตั้ง ไม่อยากให้เข้าใจผิด เพราะวันนี้มีการใส่ร้ายเรา ขณะนี้ยังเป็นเพียงตุ๊กตา ที่ยังไม่ได้กำหนดสัดส่วนที่ชัดเจน ไปกำหนดไม่ได้ เพราะจะเถียงกันไม่จบ และยังเปิดกว้างสำหรับทุกความคิดเห็น โดยในวันที่ 27 ก.ย.นี้ เวลา 14.00 น. จะมีการเปิดเวที โดยเชิญผู้มีความรู้ ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม 30-40 คนมาหารือ

การเมืองใหม่ต้านเผด็จการนายทุน

พล.ต.จำลองกล่าวว่า การเสนอการเมืองใหม่ เพื่อเป็นการป้องกันนายทุนเข้าไปซื้อสภาฯ ครอบงำอำนาจนิติบัญญัติและบริหาร จนเกิดเผด็จการรัฐสภา อีกทั้งที่ผ่านมากลุ่มอาชีพมีจำนวนมากแต่ไม่มีโอกาสมาเป็น ส.ส. จึงต้องไปสวามิภักดิ์นักการเมือง ทั้งนี้ ในแต่ละอาชีพ อาจคัดเลือกตัวแทนลงสมัคร โดยประชาชนอาจต้องเลือกตั้งสองส่วน คือ เขตพื้นที่และสาขาอาชีพ มั่นใจว่าจะดีกว่าแบบเก่า และจะไม่ถูกครอบงำโดยง่าย เนื่องจาก มีความหลากหลาย แต่จะเป็นการมีตัวแทนที่แท้จริงไปคานอำนาจ หากดำเนินการได้ จะทำให้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นจริงดังคำจำกัดความ และเราก็ไม่ต้องมาชุมนุมกันอีกต่อไป

รื้อเวทีมัฆวานฯ เปิดทางขบวนเสด็จ

พล.ต.จำลองกล่าวอีกว่า ระหว่างวันที่ 14-19 พ.ย. นี้ กลุ่มพันธมิตรฯจะรื้อเวทีและเต็นท์บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ เพื่อเปิดเป็นเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินรวมทั้งสิ้น 6 วัน เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าว จะมีพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยจะปรับรูปแบบมาใช้เป็นรถขยายเสียงเคลื่อนที่แทน ตามเจตนารมณ์ของการชุมนุม ที่ยึดหลักปกป้องสามสถาบันได้แก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ การเปิดทางครั้งนี้ ถือว่าดำเนินการด้วยความเต็มใจ

คนเป็นกาวใจต้องมีอำนาจตัดสินใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ติดต่อขอเจรจามาบ้างหรือไม่ พล.ต.จำลองตอบว่า ยังไม่มีใครในรัฐบาลติดต่อมา แต่ยืนยันว่าเราไม่ปิดประตูการเจรจา แต่ทราบว่าขณะนี้รัฐบาลจะต้องเร่งดำเนินการตั้ง ครม.ใหม่ก่อน จึงคิดว่าควรทำภารกิจตรงนั้นให้เสร็จ แล้วค่อยคุยเรื่องนี้ แต่คนที่จะมาคุย ขอให้เป็นคนที่มีอำนาจในการตัดสินใจ ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีประโยชน์ แต่เราคงไม่สามารออกไปเจรจานอกทำเนียบฯได้ เพราะออกไปตำรวจก็จับ ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งเงื่อนไข แต่ช่องทางอื่น เช่น ทางโทรศัพท์ก็สามารถทำได้ แต่สมมติหากทางรัฐบาลต่อสายมายังแกนนำคนใดคนหนึ่ง ก็ยังไม่ถือเป็นข้อสรุป เพราะต้องนำหารือกับแกนนำทั้งหมด และถ้าเป็นเรื่องสำคัญ ก็ต้องสอบถามมติจากผู้ชุมนุม เพราะถ้าเราตัดสินใจอะไรไป แล้วผู้ชุมนุมไม่ยอม จะเป็นปัญหา เมื่อถามกรณี พล.ต.สนั่นจะชักชวน พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อน จปร.7 ของ พล.ต.จำลองมาช่วยเจรจา พล.ต.จำลองตอบว่า ไม่มีปัญหาเป็นใครก็ได้ทั้งนั้น ขอให้มีอำนาจในการตัดสินใจ

เพิ่มอำนาจประชาชนถอดถอน ส.ส.

นายพิภพกล่าวว่า สำหรับการเมืองใหม่ได้มีการเพิ่มเนื้อหาที่สำคัญ อาทิ องค์กรสื่อต้องมีอิสระในการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร ประชาชนในเขตเลือกตั้งมีสิทธิ์เรียกคืนตำแหน่ง ส.ส.ได้ ให้อำนาจประชาชนในการถอดถอนนักการเมืองได้ง่ายขึ้น โดยมีกฎหมายรองรับและประชาชนสามารถยื่นเรื่องต่อศาลได้โดยตรง เพื่อลดขั้นตอนและคดีเกี่ยวกับการทุจริตต้องไม่มีอายุความ ดังนั้น การเมืองใหม่จึงเป็นการเพิ่มบทบาทการเมืองภาคประชาชน ให้เข้มข้นกว่าเดิม

จัดเสวนาวิชาการชำแหละสันติอโศก

วันเดียวกัน ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ ถนนราชดำเนินใน ได้มีการเสวนาวิชาการเรื่อง “ลัทธิสันติอโศก ได้อำนาจรัฐ แล้วพระพุทธศาสนาจะอยู่อย่างไร” โดยพระเทพวิสุทธิกวี เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ไม่ว่าจะเกิดลัทธิอะไรขึ้นมา พระพุทธศาสนาจะสามารถคงอยู่ได้อย่างแน่นอน แต่องค์กรทางพุทธก็ไม่ควรอยู่นิ่ง ควรที่จะออกมาหามาตรการในการดำเนินการต่างๆด้วย

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า กลุ่มสันติอโศกมีการตั้งพรรคการเมืองใช้ชื่อว่า “พรรคฟ้าดิน” ซึ่งจะมาอ้างว่าสันติอโศกไม่รู้เรื่องไม่ได้ เพราะชื่อของเลขาธิการพรรค คือ ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ ซึ่งเป็นคนของสันติอโศก และการที่สันติอโศกบอกว่าไม่ได้ข้องเกี่ยวกับการเมือง ไม่มีเป้าหมายทางการเมือง อยากถามว่าหากไม่มีเป้าหมายทางการเมืองแล้ว จะตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาหาอะไร อีกทั้งการที่สมณะของสันติอโศกแต่งกายคล้ายพระสงฆ์ ก็เพื่อเป็นเกราะคุ้มครองไม่ให้ถูกคนอื่นต่อว่าในการดำเนินการทางการเมือง เพื่อเป็นการคุ้มครองตัวเองให้ไปสู่เป้าหมายทางการเมือง และยืนยันว่าอีกไม่นานจะมีการดำเนินการเอาทำเนียบรัฐบาลคืนจากกลุ่มพันธมิตรฯแน่นอน เพราะขณะนี้มีการหารือกันถึงแนวทางต่างๆมาหลายครั้งแล้ว

อ้างต้องการสถาปนาลัทธิทางศาสนา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเสวนาวิชาการดังกล่าว มีการแจกจ่ายแถลงการณ์ขององค์กรชาวพุทธแห่งประเทศไทย ระบุว่าการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มสันติอโศก มีเจตนารมณ์ชัดเจนว่าจะสถาปนาระบอบการเมืองใหม่ ตามทฤษฎีของสมณะโพธิรักษ์ ซึ่งแนวคิดดังกล่าวเป็นแนวทางที่จะล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แสดงให้เห็นว่าสันติอโศกต้องการจะสถาปนาลัทธิศาสนาของตัวเอง องค์กรชาวพุทธฯ จึงขอเรียกร้องให้สมณะโพธิรักษ์และสันติอโศก ยุติความพยายามในการสถาปนาระบอบการเมืองใหม่ ให้กลุ่มสันติอโศกออกจากทำเนียบรัฐบาล ให้สมณะโพธิรักษ์ปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมือง และนำ พล.ต. จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ เข้ามอบตัว และเรียกร้องให้ผู้ดูแลกฎหมายดำเนินการกับสันติอโศก เพราะศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาเมื่อปี 2541 ว่าสันติอโศกมีความผิดทางศาสนา และไม่ให้กระทำผิดซ้ำอีก

วันเสาร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2551

“ซิปี ลิฟนี” นายกฯหญิงยิวคนใหม่?


“ซิปี ลิฟนี” นายกฯหญิงยิวคนใหม่? [21 ก.ย. 51 - 00:44]

ยุทธภพการเมืองอิสราเอลซึ่งกำลังเผชิญวิกฤติขนานหนัก เนื่องจากนายกรัฐมนตรี เอฮุด โอลเมิร์ต โดนข้อหาทุจริตคอรัปชันยั้วเยี้ยหลายคดี ต้องประกาศว่าพร้อม “ไขก๊อก” จะลาออกทันทีที่พรรคคาดิมาได้หัวหน้าคนใหม่ขึ้นรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทนตน...

มีสีสันเพิ่มชีวิตชีวาทันที เมื่อผลเลือกตั้งหัวหน้าพรรควันพุธที่ 17 ก.ย. นางซิปี ลิฟนี วัย 50 ปี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พิชิตชัยชนิดฉิวเฉียดเส้นยาแดงผ่าแปด จากสมาชิกพรรค 74,000 คน เธอได้คะแนนเสียง 20,000 หย่อนนิดหน่อย (แค่ครึ่งเปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากรอิสราเอล) หรือเท่ากับร้อยละ 43 เฉือนคู่แข่งที่ตามมาอันดับสอง คือ นายชาอูล โมฟาซ รัฐมนตรีคมนาคมสายเหยี่ยวและอดีตผู้บัญชาการกองทัพ เพียงจุดเปอร์เซ็นต์เดียว (431 แต้ม) ส่วนผู้ขันอาสาอีกสองคน... นายแมร์ ชีตริต รมต.ประจำสำนักนายกฯ และ นายเอวี ดิชเตอร์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานรักษาความมั่นคงชินเบต ถูกทิ้งห่างไม่เห็นฝุ่น

แต่คะแนนเสียงนี้บ่งชี้นัยน่าสนใจหลากหลายแง่มุม...กฎกติกาธรรมนูญพรรคคาดิมา ถ้าไม่มีใครได้คะแนนเสียงสมาชิกพรรคผ่านเกณฑ์ร้อยละ 40 จะต้องให้ผู้ครองอันดับหนึ่งและสองมาแข่งกันใหม่ นางลิฟนีได้ 43% จึงรอดสันดอน

นัยต่อมา...ลิฟนีได้รับอาณัติให้รวบรวมเสียงสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภา (คเนสเสต) หากได้ข้างมากเพียงพอเธอก็ขึ้นแท่นนายกรัฐมนตรี ฟอร์มรัฐบาลบริหารบ้านเมือง

อาจกลายเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่สองแห่งประวัติศาสตร์การเมืองอิสราเอล ตามรอย นางโกลดา แมร์ หัวหน้ารัฐบาลเพศแม่คนแรก คุณยายแมร์สะด๊วบบัลลังก์ระหว่าง พ.ศ.2512-2517 เธอสร้างชื่อเสียงกระฉ่อนเวทีการเมืองทั้งในและระหว่างประเทศ จนได้รับสมญานาม “สตรีเหล็ก” ทำเอาผู้หญิงทั่วพิภพปลาบปลื้ม ภาพนั้นผ่านพ้นยาวนาน 34 ปีแล้ว

อย่างไรก็ตาม เส้นทางสู่ฝันของลิฟนีนอกจากไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบแล้ว เธอยังต้องฟันฝ่าขวากหนามไม่รู้กี่ด่าน อุปสรรคแรกคือวิกฤติการเมือง มูลฐานจากนายกรัฐมนตรีโอลเมิร์ตโดนกล่าวหาว่าทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวง ที่ยังหาทางปิดฉากยุติไม่ลง

นำไปสู่ปัญหาความไม่แน่ไม่นอน... ลิฟนีจะสามารถโน้มน้าวสมาชิกคเนสเสตสนับสนุนให้ฟอร์มรัฐบาลได้เพียงพอหรือไม่อย่างไร “กว่าจะแบ่งเค้กลงตัว ลิฟนีต้องร่ายมนตราเจรจาเกลี้ยกล่อมขอเสียงสนับสนุน เหน็ดเหนื่อยสายตัวแทบขาดชนิดไม่เคยเจอมหาหินเช่นนี้มาก่อนแน่ ตะละกลุ่มตะละมุ้งล้วนเขี้ยวลากดิน” บทบรรณาธิการ นสพ.เยดิออต อะฮาโรนอต ฟันธงสรุป

ลิฟนีอดีตสปายหน่วยสืบราชการลับ “มอสสาด” เธอเป็นหัวหน้าทีมอิสราเอล ที่พี่เบิ้มสหรัฐอเมริกาหนุนหลังให้เปิดเจรจาสันติภาพกับปาเลสไตน์ จะมีสัมปทานเวลา “เดตไลน์” เส้นตายภายใน 42 วัน เร่งมือหาลู่ทางจัดตั้งรัฐบาลให้เสร็จเรียบร้อย หาไม่ก็จะต้องมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก่อนครบวาระ ซึ่งแนวโน้มไม่ค่อยดีต่อลิฟนีและพลพรรคค่ายคาดิมาเลย เนื่องจากสำนักโพลต่างๆหยั่งเสียงสำรวจประชามติ

วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2551

พันธมิตรฯกร้าว 'สมชาย' มาโดนขับไล่อีกแน่



พันธมิตรฯกร้าว 'สมชาย' มาโดนขับไล่อีกแน่ [16 ก.ย. 51 - 04:53]


ที่ บช.น. วันที่ 15 ก.ย. พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. รักษาการแทน ผบช.น. เรียกประชุมนายตำรวจระดับรอง ผบช.น. ผบก.น.1-9 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปและประเมินสถานการณ์กลุ่มพันธมิตรฯปักหลักชุมนุมอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล จากนั้น พล.ต.อ.จงรักกล่าวว่า หลังจากยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตำรวจยังคงกำลังในการดูแลความสงบเรียบร้อยไว้ 15 กองร้อย จำนวน 2,300 นาย และยังมีกำลังสนับสนุนจากทหารอีกจำนวนหนึ่ง สามารถออกปฏิบัติการได้ทันทีเมื่อมีเหตุการณ์ ฉุกเฉิน อยากเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมทุกกลุ่มชุมนุมกันโดยสงบปราศจากอาวุธ และขอร้องทุกฝ่ายเคารพต่อกฎหมาย หลีกเลี่ยงการปะทะกัน ตำรวจยังใช้มาตรการเดิมคือใช้ความนุ่มนวล ไม่ใช้ความรุนแรงเป็นอันขาด โดยจะใช้โล่ในการป้องกันตัวเองเพียงอย่างเดียว ไม่มีการใช้กระบอง หรืออุปกรณ์ปราบจลาจล เว้นแต่จะใช้ความรุนแรงกับผู้บุกรุกสถานที่ราชการเท่านั้น

จับตา นปช.นัดชุมนุมใหญ่ 19 ก.ย.
พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ได้รับรายงานว่ากลุ่ม นปช.นัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 19 ก.ย. ที่สนามหลวง ซึ่งต้องติดตามข่าวความเคลื่อนไหว และจะนำบทเรียนต่างๆที่เคยเกิดขึ้นมาวิเคราะห์เพื่อหาแนวทางแก้ไข ตำรวจต้องใช้แนวทางในการป้องกัน ที่จะมาบอกว่าไม่มีอะไรจากนี้คงไม่เชื่อ ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยการเปิดประชุมสภาฯโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น จะใช้มาตรการเดิม พื้นที่ด้านนอกรัฐสภาใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจและโล่ ด้านในเป็นกองร้อยควบคุมฝูงชนที่มีอุปกรณ์ครบมือ ป้องกันไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องบุกรุกเข้าไป และต้องสกัดกั้นผู้ชุมนุมทั้งสองฝ่ายให้อยู่ห่างกัน

พล.ต.ต.สุรพลกล่าวว่า ได้ตั้งทีมสืบสวนติดตาม 9 แกนนำพันธมิตรฯที่ถูกออกหมายจับแล้ว หากออกมานอกทำเนียบรัฐบาลจะจับกุมทันที เพื่อให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม อย่างไรก็ตาม ถ้ามีเงื่อนไขอื่นที่จะนำไปสู่ความวุ่นวาย เจ้าหน้าที่รอได้ เพราะคดีดังกล่าวอายุความ 20 ปี

พันธมิตรฯปรับพื้นที่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า
ด้านความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตยที่ปักหลักชุมนุมอยู่ในทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 06.00 น. เจ้าหน้าที่กองทัพธรรมประมาณ 100 คน นำโดย ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ ผู้ประสานงานกองทัพธรรม ช่วยกันรื้อไม้รองนั่งที่วางทับโคลนบริเวณหน้าสนามตึกไทยคู่ฟ้าออก เพื่อปรับพื้นที่ใหม่ เนื่องจากผู้ชุมนุมประสบปัญหาระบบสุขอนามัย โดยเฉพาะกลิ่นเน่าเหม็นและยุงลายที่มาวางไข่ตามแอ่งน้ำ โดยเจ้าหน้าที่ กองทัพธรรมต้องโกยดินโคลนและหญ้าที่เน่าออก แล้วนำปูนขาวมาโรยทับถึง 3 ชั้น พร้อมนำรถบำบัดน้ำเสียกำจัดกลิ่นและไขมันมาดูดดินโคลนที่เสียออกไป ก่อนที่จะนำทรายมาเททับอีกชั้นหนึ่งเพื่อดูดซึมซับน้ำหากมีฝนตกลงมาอีก แล้วจึงนำไม้รองนั่งมาวางทับคืนที่เดิมเพื่อให้กลุ่มผู้ชุมนุมใช้นั่งฟังการปราศรัย

ตีปี๊บแนวคิดรัฐบาลประชาภิวัฒน์
ต่อมาเวลา 10.00 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายสมศักดิ์กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯเสนอให้จัดตั้งรัฐบาลประชาภิวัฒน์ว่า รายละเอียดยังไม่ได้กำหนด เพียงแต่ต้องการชี้ให้เห็นเป้าหมายก่อน และรอความเห็นจากหลายภาคส่วน เป้าหมายรัฐบาลประชาภิวัฒน์ต้องการผู้บริหารที่ไม่ทุจริต ยอมรับความคิดเห็นและมีส่วนร่วมกับประชาชน ต้องตรวจสอบได้ ถ้าไม่ดีต้องถอดถอนได้ แนวคิดการเมืองใหม่ไม่จำเป็นต้องเป็นสัดส่วน 70/30 ที่เสนอมาเพื่อให้เป็นตัวอย่าง หลักการคือไม่ต้องการ ส.ส.และ ส.ว.มาจากการเลือกตั้ง 100% นักการเมืองต้องมาจากหลายกลุ่มหลายอาชีพต้องมาจากการคัดสรร แนวคิดดังกล่าวเป็นประชาธิปไตยทางตรงที่มีตัวแทนมาจากหลายสาขาอาชีพอย่างชัดเจน ผู้สื่อข่าวถามว่าแนวคิดการเมืองใหม่จะไปถึงรัฐบาลได้อย่างไร นายสมศักดิ์ตอบว่า เรื่องนี้อยู่ที่จิตสำนึกของรัฐบาล น่าจะมีการผลักดันเต็มที่เพื่อหาทางออก โดยอาศัยการต่อสู้ของภาคประชาชนที่ไม่ได้ยึดติดผลประโยชน์ส่วนตัว

กร้าว “สมชาย” มาโดนขับไล่อีกแน่
ต่อข้อถามว่า ถ้าพลังประชาชนยืนยันจะเสนอชื่อนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เป็นนายกรัฐมนตรี ทางกลุ่มพันธมิตรฯจะเคลื่อนไหวอย่างไร นายสมศักดิ์ตอบว่า เราไล่อยู่แล้ว ถือว่าไม่ฟังเสียงประชาชน คิดว่ารัฐบาลไม่สามารถอยู่ได้ ต้องมีการเปลี่ยน แปลง อย่างที่ผ่านมาที่มีการขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ได้นายสมัคร สุนทรเวช ได้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ กลับมาวนเวียนกันอยู่อย่างนี้ ฉะนั้นเราต้องขับไล่ต่อไปจนกว่าคนพวกนี้จะออกไปอย่างเบ็ดเสร็จ และมีรัฐบาลประชาภิวัฒน์ เมื่อถามว่าจะไม่ให้โอกาสนายสมชายทำงานก่อนหรือ นายสมศักดิ์ตอบว่า เราไม่ยอมรับนายสมชายเป็นนายกฯใหม่ เพราะพฤติกรรมชัดเจนยิ่งกว่านายสมัคร สุนทรเวช ที่ถูกมองว่าเป็นนอมินี แต่นายสมชายเป็นยิ่งกว่านั้น เรียกได้ว่าเป็นเจ้าภาพของการโกง พฤติกรรมที่ผ่านมาแสดงเจตนาอยู่กับคนทำชั่ว แต่ทำไมพรรคพลังประชาชนและพรรคร่วมรัฐบาลจึงยังเสนอชื่อนายสมชายเป็นนายกฯอยู่อีก

“สุริยะใส” อึ้งคำถามม็อบทำอุบาทว์
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อเวลา 19.30 น. ที่หลังเวทีปราศรัย สะพานมัฆวานรังสรรค์ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ แถลงถึงการหาตัวนายกฯที่ยังไม่ลงตัวว่า เป็นการต่อรองผลประโยชน์และโควตาทางการเมือง อีก 1-2 วันก็คงจะได้ข้อยุติ เพราะไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหนก็ยังมีนายคนเดียวกันคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพียงแค่ยกหูโทรศัพท์คุยกันก็ได้ข้อยุติ ทั้งนี้ ได้มีการประชุมการ์ดพันธมิตรฯ โดยเฉพาะประเด็นการกระทบกระทั่งกับสื่อมวลชน ส่วนหนึ่งอาจเกิดจากภาวะอารมณ์ของการ์ด แต่สื่อมวลชนก็ควรระวังการพูดจาด้วย ทุกวันนี้ฝ่ายตรงข้ามแฝงเข้ามาหลายรูปแบบ บางคนเข้ามาเป็นการ์ด บางคนแขวนป้ายเป็นสตาฟฟ์

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีผู้ชุมนุมบางคนไปอุจจาระในซอกข้างรังนกกระจอก ซึ่งเป็นห้องทำงานนักข่าว และบางคนไปสำเร็จความใคร่ให้เห็นด้วย นายสุริยะใสตอบว่า มีหรือ แล้วจะให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องดูแล ขอให้ทนอีกหน่อย นักข่าวอาจจะเดือดร้อน แต่ไม่เกินเดือนนี้เชื่อว่าจะได้พื้นที่ทำงานคืน

วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2551

73 สส.ก๊วนเนวินจี้กก.บห.ทบทวนหนุนสมชาย


73 สส.ก๊วนเนวินจี้กก.บห.ทบทวนหนุนสมชาย
โดย คม ชัด ลึก
วัน จันทร์ ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2551 00:00 น.


ออกแถลงการณ์ 73 ส.ส.อีสาน ขอให้ทบทวน ค้าน มติกรรมการบริหารพรรคบีบสมาชิก


นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.โคราช กลุ่มเพื่อนเนวิน พรรคพลังประชาชน อ่านแถลงการณ์ 73 ส.ส.อีสาน พรรคพลังประชาชน โดยขอให้กรรมการบริหารพรรคทบทวนมติการเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมดำรงตำแหน่งนายกฯ เพราะคนที่เหมาะสมต้องเป็นบุคคลที่ต้องไม่สร้างเงื่อนไขให้เกิดความขัดแย้ง ทั้งนี้ไม่ปฏิเสธว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคเป็นคนดี เหมาะสมเป็นนายกฯ แต่หากพิจารณาต้องอยู่บนพื้นฐานการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน อย่างไรก็ตามพร้อมเลือกบุคคลตามที่พรรคเสนอ หากบุคคลนั้นไม่ทำให้เกิดปัญหาซ้ำเติมประเทศแต่หากพรรคยังมีมติที่ทำให้เกิดผลกระทบก็จะขอใช้เอกสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ

แถลงการณ์ของ 73 ส.ส.อีสาน พรรคพลังประชาชน ยังไม่เห็นด้วยกับแนวคิดการออกนิรโทษกรรม 111 คนไทยรักไทย และกลุ่มพันธมิตรฯ โดยขอให้การดำเนินการเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมล่าสุดการประชุมส.ส.พรรคพลังประชาชน ไม่ราบรื่น ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน ค้านมติกรรมการบริหารพรรคไม่สนับสนุน "สมชาย วงศ์สวัสดิ์" เป็นนายกฯ

ส่วนที่ประชุม ส.ส.พรรคพลังประชาชน ซึ่งเป็นการแจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ให้รับทราบเกี่ยวกับการเสนอชื่อให้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็เป็นไปด้วยความไม่ราบรื่นมากนัก เนื่องจากมี ส.ส.บางกลุ่ม โดยเฉพาะ ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน ที่มีมติเห็นต่างกับมติของคณะกรรมการบริหารพรรค ทำให้การประชุม ส.ส.พรรคยาวนาน ส่งผลให้นายสมชาย ต้องยกเลิกการประชุมการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอย่างกะทันหัน ทั้งนี้จากการเปิดเผยของ นายสุรชัย เบ้าจรรยา ส.ส.อีสาน พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ส.ส.กลุ่มที่ไม่เห็นด้วย ก็มีความเข้าใจดี เพราะเป็นมติพรรคที่ ส.ส.ทุกคนต้องยอมรับ ซึ่งเรื่องนี้พรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน ซึ่งตนมั่นใจว่า จะไม่เกิดปัญหาเหมือนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเหมือนครั้งแรก แม้จะมี ส.ส.ที่มีความเห็นต่างกัน

ขณะที่นายทรงศักดิ์ ทองศรี รักษาการ รมช.คมนาคม ในฐานะกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีกลุ่มเพื่อนเนวินต้องการให้กรรมการบริหารพรรคทบทวนมติการเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯว่า กลุ่มอยากให้พิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะยังมีเวลาในการพิจารณาอีกมากก่อนถึงวันที่ 17 กันยายน เพื่อโหวตเลือกนายกฯ แต่ไม่ใช่ไม่สนับสนุน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรค เพราะทั้ง 3 ส.ก็มีคุณสมบัติที่เหมาะสมแต่ขอให้สมาชิกพรรคได้พิจารณาอย่างรอบคอบ และเสนอให้ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคเร่งพิจารณาไม่ใช่กรรมการบริหารพรรคออกเป็นมติแล้วแจ้งให้สมาชิกพรรครับทราบเช่นนี้ อย่างไรก็ตามยืนยันการเคลื่อนไหวไม่ได้ทำเพื่อต่อรองตำแหน่ง